
คดีแพ่ง ถ้าจำเลยตายในระหว่างพิจารณาให้ศาลเลื่อนการนั่งพิจารณาออกไปจนกว่าทายาท หรือผู้จัดการทรัพย์มรดก หรือบุคคลที่ปกครองทรัพย์มรดกของผู้ตายจะได้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ผู้ตาย โดยจะต้องเข้ามาภายใน 1 ปี นับแต่จำเลยตาย
คดีอาญา ถ้าจำเลยตายในระหว่างพิจารณา สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสาระบบความ
กล่าวคือ ความผิดอาญาเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้กระทำความผิดโดยแท้ ไม่ตกทอดไปยังทายาท ดังนั้น หากผู้กระทำความผิดตายไม่ว่าในชั้นใดระหว่างดำเนินคดี ย่อมทำให้สิทธิในการดำเนินคดีอาญาระงับไป และแม้ผู้กระทำความผิดอยู่ระหว่างได้รับโทษตามคำพิพากษา โทษตามคำพิพากษาย่อมเป็นอันระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำความผิด
กล่าวโดยสรุป คดีอาญาโทษจะระงับไปด้วยความตายของจำเลย ส่วนคดีแพ่งจำเลยตาย ทายาทยังต้องรับผิดเพราะเป็นสิทธิหน้าที่ที่ตกทอดเป็นมรดกแต่รับผิดไม่เกินทรัพย์มรดกที่ตกทอดได้แก่ตน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ดังต่อไปนี้
(1) โดยความตายของผู้กระทำผิด…
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 38 โทษให้เป็นอันระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำความผิด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลได้มรณะเสียก่อนศาลพิพากษาคดี ให้ศาลเลื่อนการนั่งพิจารณาไปจนกว่าทายาทของผู้มรณะหรือผู้จัดการทรัพย์มรดกของผู้มรณะ หรือบุคคลอื่นใดที่ปกครองทรัพย์มรดกไว้ จะได้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะ โดยมีคำขอเข้ามาเอง หรือโดยที่ศาลหมายเรียกให้เข้ามา เนื่องจากคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคำขอฝ่ายเดียว คำขอเช่นว่านี้จะต้องยื่นภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่คู่ความฝ่ายนั้นมรณะ
ถ้าไม่มีคำขอของบุคคลดังกล่าวมาแล้ว หรือไม่มีคำขอของคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งภายในเวลาที่กำหนดไว้ ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีเรื่องนั้นเสียจากสาระบบความ
1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2456/2530 ผู้กระทำความผิดใช้อาวุธปืนยิงเจ้าพนักงานตำรวจแต่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องผู้กระทำความผิดย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 และโทษก็เป็นอันระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 38 ดังนั้น อาวุธปืนซึ่งเป็นปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่นที่ผู้ตายใช้ยิงเจ้าพนักงานตำรวจจึงไม่อาจริบได้ตามบทกฎหมาย
2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2539 การชี้สองสถานเป็นการนั่งพิจารณาอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 1(9) แม้ศาลชั้นต้นจะได้กำหนดวันนัดชี้สองสถานในวันที่7พฤษภาคม2536และทนายโจทก์ได้รับหมายนัดชี้สองสถานเมื่อวันที่11มีนาคม2536แล้วแต่โจทก์ได้ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่10มีนาคม2536ก่อนที่ทนายโจทก์จะได้รับหมายและก่อนวันชี้สองสถานเมื่อนาง ย.ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ได้ยื่นคำร้องแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบถึงความมรณะของโจทก์ศาลชั้นต้นต้องสั่งเลื่อนการนัดชี้สองสถานที่นัดไว้ไปก่อนจนกว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้นาง ย. เข้ามาเป็นคู่ความแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 42 และเมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตแล้วศาลชั้นต้นต้องแจ้งกำหนดวันนัดชี้สองสถานใหม่ให้คู่ความทราบล่วงหน้าตามกฎหมายการที่ศาลชั้นต้นดำเนินการชี้สองสถานไปเมื่อวันที่ 7พฤษภาคม 2536 เป็นการไม่ชอบ