ซื้อรถเงินผ่อน แต่ยังส่งค่างวดไม่ครบขายต่อได้หรือไม่ ?

” ซื้อรถเงินผ่อนแต่ยังส่ง ” ซื้อรถยนต์มา 1  คัน  โดยซื้อเงินผ่อนแต่ยังผ่อนค่างวดยังไม่หมด  จะนำไปขายต่อให้เพื่อน ขายต่อให้ญาติพี่น้อง หรือขายต่อให้บุคคลอื่นได้หรือไม่   และหากขายไปจะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร  ทาง  LAWRAI  มีคำตอบมาให้ครับ       

    รถที่เราซื้อผ่อนหรือภาษาทางกฎหมายเรียกว่าเช่าซื้อนั้น  ส่วนใหญ่ผู้เช่าซื้อจะนำรถไปจัดไฟแนนซ์  และจะผ่อนค่างวดกับทางบริษัทไฟแนนซ์  รถจึงเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแนนซ์  ผู้ซื้อเงินผ่อน  (ผู้เช่าซื้อ)  ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คงมีเพียงสิทธิครอบครองใช้สอยในรถยนต์เท่านั้น  ตราบใดที่ยังผ่อนไม่หมด  แต่หากเมื่อผ่อนหมดแล้วกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ก็จะโอนไปเป็นของผู้เช่าซื้อทันที  ถึงแม้ยังไม่มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบกก็ตาม  เข้าใจกันง่ายๆ  ก็คือทางกฎหมายกรรมสิทธิ์ในรถยนต์จะโอนไปเป็นของผู้เช่าซื้อทันที   การจดทะเบียนให้มีชื่อในสมุดคู่มือการจดทะเบียนรถเป็นเพียงการควบคุมและตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นข้อสันนิษฐานทางกฎหมายว่าผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ซึ่งไม่ใช่ข้อสันนิษฐานเด็ดขาด  จึงไม่เกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์แต่อย่างใด

     แต่ปัญหามีอยู่ว่า หากผ่อนไม่ไหวแล้วขายรถให้เพื่อน ขายต่อให้ญาติพี่น้อง หรือขายต่อให้บุคคลอื่น โดยให้พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้ผ่อนต่อไป ซึ่งหากบุคคลเหล่านั้นทำตามที่ตกลงกันคือผ่อนค่างวดให้กับบริษัทไฟแนนซ์ต่อไปตรงตามกำหนดก็จะไม่เกิดปัญหา เพราะทางบริษัทไฟแนนซ์ผู้ให้เช่าซื้อก็ได้รับค่างวดตามปกติตามเดิมจึงไม่ทราบว่ามีการซื้อขายรถกันเอง  แต่หากผู้ที่ซื้อต่อจากเราไม่ผ่อนต่อหรือผ่อนไม่ตรงระยะเวลาตามกำหนดรายงวด หรือนำรถหนีไป  ต่อมาเมื่อถึงกำหนดระยะเวลาส่งค่างวดจึงไม่ได้ส่ง ทางบริษัทไฟแนนซ์ก็จะติดต่อทวงถามมายังตัวเราผู้เช่าซื้อซึ่งเป็นคู่สัญญาปัญหาก็เกิดขึ้นย้อนกลับมายังตัวเราผู้เช่าซื้อ เช่น อาจจะถูกฟ้องเป็นคดีแพ่งตามสัญญาเช่าซื้อเนื่องจากเราเป็นคู่สัญญา  หรืออาจจะถูกฟ้องเป็นคดีอาญาในข้อหายักยอกทรัพย์ตามกฎหมายอาญาได้  หรือหากผู้ที่ซื้อรถต่อจากเราไปนำรถไปกระทำผิดกฎหมายอาจจะนำความเดือดร้อนมายังเราได้   เพราะฉะนั้นหากจะขายรถต่อ ก็จูงมือกันไปที่บริษัทไฟแนนซ์และเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อให้ถูกต้อง  ปัญหาทุกอย่างก็จะหมดไป  มิฉะนั้นอาจมีความรับผิดทั้งในทางแพ่งตามข้อสัญญา  และมีความผิดทางอาญาได้ 

       ป.อ.มาตรา 352  ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

       ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง ป.พ.พ.มาตรา 555   ผู้เช่าจำต้องยอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่าเข้าตรวจดูทรัพย์สินที่เช่าเป็นครั้งคราว ในเวลาและระยะอันสมควร

          ป.พ.พ. มาตรา 572  อันว่าเช่าซื้อนั้น คือสัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้นหรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว สัญญาเช่าซื้อนั้นถ้าไม่ทำเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะตัวคำพิพากษาฎีกาที่นำรถที่เช่าซื้อไปขายให้ผู้อื่นเป็นความผิดฐานยักยอก

           ฎีกาที่ 11294/2553 หลังจากทำสัญญาเช่าซื้อจำเลยชำระค่าเช่าซื้อให้ผู้เสียหายเพียง 2 งวดแล้วไม่ชำระค่าเช่าซื้ออีกเลย และจำเลยนำรถที่เช่าซื้อไปตีใช้หนี้ให้แก่ผู้อื่นโดยจำเลยทราบอยู่แล้วว่ารถที่เช่าซื้อยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหาย เมื่อ จ. ไปติดตามยึดรถที่เช่าซื้อแต่จำเลยบ่ายเบี่ยงไม่ให้ความร่วมมือ พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาเบียดบังเอาทรัพย์ของผู้เสียหายที่อยู่ในครอบครองของจำเลยไปโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานยักยอก

        ฎีกาที่ 5640/2548  จำเลยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของโจทก์ร่วมไป แม้จำเลยจะมีสิทธิใช้สอยและครอบครองรถจักรยานยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อ แต่รถจักรยานยนต์ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ร่วม เมื่อโจทก์ร่วมประสงค์จะตรวจดู จำเลยจำต้องยอมให้ผู้เช่าซื้อตรวจดูทรัพย์สินที่เช่าซื้อได้เป็นครั้งคราวในเวลาและระยะอันสมควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 555 การที่จำเลยไม่สามารถนำรถจักรยานยนต์มาให้โจทก์ร่วมตรวจดูได้ แม้จำเลยได้แสดงเจตนาที่จะชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ร่วม แต่จำเลยกับพวกนำรถไปขายที่ต่างประเทศแล้ว ถือได้ว่าจำเลยเบียดบังเอารถจักรยานยนต์ของโจทก์ร่วมไปเป็นของตนเองหรือบุคคลอื่นโดยทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอก

Facebook
Twitter
Email
WhatsApp