
หากผู้กระทำความผิดที่ไม่ใส่แมส และถูกจับกุมดำเนินคดีในชั้นตำรวจ ถ้าผู้กระทำความผิดยินยอมให้ปรับในชั้นตำรวจ ก็จะถูกปรับตามอัตราดังนี้ คือ
ครั้งที่ 1 จำนวน 6,000 บาท
ครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท
ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป จำนวน 20,000 บาท
ซึ่งอัตราการเปรียบเทียบนี้เป็นอัตราตามระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบ พ.ศ.2563 ที่แนบท้ายระเบียบดังกล่าว แต่หากผู้กระทำความผิดไม่ยอมให้ปรับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ (พนักงานสอบสวน) ก็จะดำเนินคดีทำสำนวนส่งพนักงายอัยการส่งฟ้องต่อศาล และเป็นดุลพินิจของศาลว่าจะลงโทษปรับเป็นจำนวนเงินเท่าใด ซึ่งหากผู้กระทำความผิดให้การรับสารภาพ ศาลก็อาจใช้ดุลพินิจลดโทษค่าปรับให้ครึ่งหนึ่งซึ่งอาจจะต่ำกว่าค่าปรับที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบกำหนดก็ได้
ความแตกต่างของการยินยอมให้ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบปรับ กับการไม่ยอมเสียค่าปรับตามอัตราดังกล่าว และถูกส่งฟ้องต่อศาล
- การเปรียบเทียมปรับในชั้นตำรวจจะปรับตามบัญชีอัตราการเปรียบเทียบ ซึ่งครั้งแรกจะปรับจำนวน 6,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท และครั้งที่ 3 เป็นต้นไป จะปรับจำนวน 20,000 บาท ซึ่งอาจจะเป็นจำนวนที่มากกว่าศาลสั่งปรับ เมื่อผู้กระทำผิดยอมให้ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบปรับคดีอาญาเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
- แต่ถ้าไม่ยอมให้เปรียบเทียบปรับ หรือคิดว่าไปปรับในชั้นศาลจะเสียค่าปรับน้อยกว่าที่กำหนดตามบัญชีอัตราการเปรียบเทียบ แต่ผู้กระทำความผิดก็จะต้องถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือมีการส่งรายชื่อและเลขประจำตัวประชาชนไปตรวจสอบประวัติอาชญากรในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร และรวบรวมเป็นสำนวนส่งพนักงานอัยการ เพื่อพนักงานอัยการจะได้ส่งฟ้องศาล ซึ่งจะทำให้ผู้ที่กระทำความผิดมีประวัติการกระทำผิดอยู่ในฐานข้อมูลของทางทะเบียนประวัติอาชญากร และจะใช้เวลาในการดำเนินคดีมากกว่าในชั้นยินยอมให้เปรียบเทียบปรับกับทางผู้มีอำนาจเปรียบเทียบหรือชั้นตำรวจโดยไม่มีการส่งฟ้องศาล