วิธีการคัดค้านพยานเอกสารในคดีแพ่ง

วิธีการคัดค้านพยานเอกสารในคดีแพ่ง      เมื่อคู่ความฝ่ายที่อ้างเอกสารส่งสำเนาเอกสารให้คู่ความอีกฝ่ายตาม ป.วิ.พ.มาตรา 90 แล้ว    คู่ความฝ่ายที่ได้รับสำเนาก็จะนำสำเนาเอกสารไปตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงแห่งเอกสาร  และต้องคัดค้านก่อนสืบพยานเอกสารนั้นเสร็จตาม  มาตรา  125 วรรค หนึ่ง หากมีกรณีต้องคัดค้าน    

                                  โดยวิธีการคัดค้านเอกสารต้องคัดค้านตามมาตรา 125 ในสามกรณี   ดังนี้ว่า

                                  1. เอกสารนั้นไม่มีต้นฉบับ

                                  2. ต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน

                                  3. สำเนานั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับ

               หากไม่คัดค้านหรือคัดค้านไม่ถูกต้องตาม  3  กรณีดังกล่าวข้างต้นนี้  ถือว่าไม่มีการคัดค้านย่อมมีผลให้ศาลรับฟังสำเนาเอกสารเป็นพยานหลักฐานได้ ตาม มาตรา  93(4)  แต่ทั้งนี้ก็ไม่ตัดอำนาจศาลที่จะไต่สวนและชี้ขาดในเรื่องการมีอยู่และความแท้จริงของเอกสาร

                           ป.วิ.พ.มาตรา 122 เมื่อคู่ความฝ่ายใดอ้างอิงเอกสารฉบับใดเป็นพยานหลักฐานและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านเอกสารนั้นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 125 ถ้าต้นฉบับเอกสารอยู่ในความครอบครองของคู่ความฝ่ายที่อ้างเอกสาร ให้คู่ความฝ่ายนั้นนำต้นฉบับเอกสารมาแสดงต่อศาลในวันสืบพยาน

                           ป.วิ.พ.มาตรา 125  คู่ความฝ่ายที่ถูกอีกฝ่ายหนึ่งอ้างอิงเอกสารมาเป็นพยานหลักฐานยันตนอาจคัดค้านการนำเอกสารนั้นมาสืบโดยเหตุที่ว่าไม่มีต้นฉบับหรือต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน หรือสำเนานั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับ โดยคัดค้านต่อศาลก่อนการสืบพยานเอกสารนั้นเสร็จ

                           ฎีกาที่ 2869/2550  แม้โจทก์อ้างสำเนาบันทึกการเจรจาชดใช้หนี้เป็นพยานโดยไม่ได้ส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวก็ตาม แต่ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์นำสืบพยานบุคคล 1 ปาก และอ้างส่งเอกสาร 2 ฉบับ รวมทั้งสำเนาบันทึกการเจรจาชดใช้หนี้ซึ่งเป็นสำเนาเอกสารด้วย แล้วโจทก์แถลงหมดพยาน แสดงว่าโจทก์สืบพยานเอกสารดังกล่าวเสร็จในวันดังกล่าว    แต่จำเลยซึ่งถูกโจทก์อ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานยันตนก็มิได้คัดค้านการที่โจทก์นำสำเนาเอกสารดังกล่าวมาสืบว่า สำเนาเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องกับต้นฉบับภายในระยะเวลาก่อนที่โจทก์จะสืบพยานเอกสารดังกล่าวเสร็จ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 125 แม้ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านการที่โจทก์อ้างสำเนาบันทึกการเจรจาชดใช้หนี้ จำเลยก็กล่าวอ้างเพียงว่าศาลจะรับฟังเอกสารเป็นพยานได้แต่ต้นฉบับ เอกสารที่โจทก์อ้างเป็นเพียงสำเนาเอกสารรับฟังไม่ได้เท่านั้น ไม่ได้คัดค้านโดยตรงว่าสำเนาเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องตรงกับต้นฉบับ ถือว่าจำเลยไม่ได้คัดค้านการอ้างสำเนาบันทึกการเจรจาชดใช้หนี้โดยชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 125 วรรคหนึ่ง ศาลย่อมรับฟังสำเนาบันทึกการเจรจาชดใช้หนี้เป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 93 ที่ศาลชั้นต้นรับฟังสำเนาเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานประกอบการวินิจฉัยข้อเท็จจริงจึงหาขัดต่อกฎหมายดังกล่าวไม่

Facebook
Twitter
Email
WhatsApp