
มีผู้สอบถามได้สอบถามเข้ามาทาง LAWRAI ว่าหากขับรถยนต์ไปและเข้าพักในโรงแรมโดยจอดรถไว้ในลานจอดรถของโรงแรม ตื่นเช้ามาปรากฏว่ารถยนต์ที่ขับหายไป เจ้าของโรงแรมต้องรับผิดชอบหรือไม่
1.ไปพักในโรงแรมโดยขับรถยนต์ไปเองและจอดไว้ในลานจอดรถของโรงแรมปรากฏว่ารถยนต์หาย เจ้าของโรงแรมต้องรับผิดชอบหรือไม่
2.นำรถยนต์ไปจอดในลานจอดรถของโรงแรม และเข้าพักในโรงแรมตื่นเช้ามารถยนต์หาย แต่รถยนต์มีประกันภัยชั้นหนึ่ง และเจ้าของรถยนต์ได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยแล้ว ทางบริษัทประกันภัยจะไปไล่เบี้ยเอาจากทางโรงแรมได้หรือๆ ไม่
LAWRAI มีคำตอบพร้อมหลักกฎหมายมาให้เช่นเคยครับ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักก่อนว่า โรงแรมหมายถึงสถานที่อย่างไรบ้างในความหมายของกฎหมาย
โรงแรม หมายความว่า สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน
คำตอบ 1. รถยนต์ที่ผู้มาพักในโรงแรมนำไปจอดในลานจอดรถของโรงแรม เมื่อรถยนต์สูญหายทางโรงแรมต้องรับผิดชอบ ผู้ที่นำรถยนต์ไปจอดเรียกร้องจากทางโรงแรมได้
คำตอบ 2. เมื่อเจ้าของรถยนต์ นำรถไปจอดในลานจอดรถของโรงแรม ต่อมารถหายไปและรถยนต์คันที่หายไปมีประกันชั้นหนึ่งและบริษัทประกันภัยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับเจ้าของรถแล้ว บริษัทประกันภัยจึงมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากทางโรงแรมได้
ท่านที่สนใจ ศึกษาเพิ่มเติมได้ตามกฎหมายและคำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 674 เจ้าสำนักโรงแรมหรือโฮเต็ล หรือสถานที่อื่นทำนองเช่นว่านั้น จะต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายอย่างใด ๆ อันเกิดแก่ทรัพย์สินซึ่งคนเดินทางหรือแขกอาศัยหากได้พามา
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 675 เจ้าสำนักต้องรับผิดในการที่ทรัพย์สินของคนเดินทางหรือแขกอาศัยสูญหายหรือบุบสลายไปอย่างใด ๆ แม้ถึงว่าความสูญหายหรือบุบสลายนั้นจะเกิดขึ้นเพราะผู้คนไปมาเข้าออก ณ โรงแรม โฮเต็ล หรือสถานที่เช่นนั้น ก็คงต้องรับผิด ความรับผิดนี้ ถ้าเกี่ยวด้วยเงินทองตรา ธนบัตร ตั๋วเงิน พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ ประทวนสินค้า อัญมณี หรือของมีค่าอื่น ๆ ให้จำกัดไว้เพียงห้าพันบาท เว้นแต่จะได้ฝากของมีค่าเช่นนี้ไว้แก่เจ้าสำนักและได้บอกราคาแห่งของนั้นชัดแจ้ง แต่เจ้าสำนักไม่ต้องรับผิดเพื่อความสูญหายหรือบุบสลายอันเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือแต่สภาพแห่งทรัพย์สินนั้น หรือแต่ความผิดของคนเดินทาง หรือแขกอาศัยผู้นั้นเอง หรือบริวารของเขา หรือบุคคลซึ่งเขาได้ต้อนรับ
1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2526 ความรับผิดของเจ้าสำนักโรงแรมเพื่อทรัพย์สินของคนเดินทางหรือแขกอาศัยที่สูญหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 674 และ 675 มิได้จำกัดแต่เฉพาะในทรัพย์สินซึ่งคนเดินทางพาเข้าไปในห้องพักหรือพาเข้าไปในบริเวณตัวอาคารโรงแรมเท่านั้นเมื่อโจทก์มาพักโรงแรมของจำเลย และนำรถยนต์จอดไว้ที่โรงจอดรถหรือลานจอดรถในบริเวณโรงแรมโดยล็อคกุญแจประตูรถไว้ ต่อมารถสูญหายโดยถูกคนร้ายลักไป และโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบทันทีจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5005/2540 น.นำรถยนต์คันเกิดเหตุมาจอดไว้ในบริเวณลานจอดรถของโรงแรมจำเลยและรถยนต์คันดังกล่าวได้หายไป จำเลยจึงต้องรับผิดต่อ น. ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 674 แม้ น. จะมิได้แจ้งให้พนักงานของจำเลยทราบว่าได้นำรถยนต์คันเกิดเหตุมาจอดไว้ในบริเวณลานจอดรถของโรงแรมจำเลยก็ตาม แต่เมื่อ น.ทราบแน่ชัดว่ารถยนต์ของตนหายไปก็ได้แจ้งแก่ ว.ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมจำเลยทราบในทันที ทั้ง น.ก็ได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กรณีถือได้ว่าเป็นการแจ้งเหตุแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าสำนักโรงแรมทราบทันทีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 676 แล้ว ส่วนข้อจำกัดความรับผิดของจำเลยตามเอกสารซึ่งเป็นเพียงใบกรอกรายละเอียด ชื่อ ที่อยู่ของผู้เข้าพักโรงแรมจำเลยและในตอนท้ายมีข้อความพิมพ์ไว้ว่า “โรงแรมจะไม่รับผิดชอบในทรัพย์สิน สิ่งมีค่าหรือธนบัตร ซึ่งอาจเกิดการสูญหาย”อันเป็นการยกเว้นความรับผิดของจำเลยนั้น เอกสารดังกล่าวจำเลยทำขึ้นฝ่ายเดียว และไม่ปรากฏว่า น. ได้ตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยดังกล่าวด้วย ข้อความในเอกสารเช่นนี้จึงเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 677 จำเลยจึงยังคงไม่หลุดพ้นจากความรับผิด