
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดี แจ้งการขายแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่เป็นเจ้าของทรัพย์ที่จะขายทอดตลาด ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาด โดยไม่แจ้งให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาอีกคนที่ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ที่จะขายทอดตลาด ซึ่งไม่ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ถือว่าการแจ้งการขายทอดตลาดชอบแล้ว ตามนัยคำพิพากษาฎีกา ที่ 3643/2563
คำพิพากษาฎีกา ที่ 3643/2563
แม้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 (เดิม) จะบัญญัติให้ลูกหนี้ตามคำ พิพากษาเป็นผู้หนึ่งที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินรวมอยู่ด้วย แต่ในการขาย ทอดตลาดทรัพย์สินนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 (เดิม) บัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งวันขายทอดตลาดแก่บรรดาผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดซึ่งทราบได้ตามทะเบียนหรือโดยประการอื่นเท่านั้น
บุคคลผู้มีส่วนได้เสียตามความหมายของมาตรานี้ย่อมหมายความเฉพาะลูกหนี้ตามคำพากษาซึ่งมีชื่อตามทะเบียนในทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด ส่วนลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นซึ่งมิใช่เจ้าของทรัพย์สินที่จะขายไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องแจ้งการขายทอดตลาดให้ทราบ
คำว่าผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 (เดิม) และมาตรา 306 (เดิม)จึงมีนัยต่างกัน คดีนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 มิใช่ทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด
เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่จำต้องแจ้งการขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 2 ทราบ การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนดไว้ในประกาศที่ได้แจ้งแก่จำเลยที่ 1 จึงเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบแล้ว
ทนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง
๐๓ /๐๑ /๒๕๖๔