ใช้อาวุธมีดข่มขู่พนักงานร้านทอง ให้ส่งมอบทองให้ผิดกฎหมายข้อใดบ้าง ???

กรณีตามที่มีข่าวผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 17 ปีเศษ ใช้อาวุธมีดไปข่มขู่พนักงานขายร้านทองแห่งหนึ่งในห้างบิ๊กซีเพื่อให้ส่งทองคำให้ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายซึ่งเป็นปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ สืบเนื่องมาจากสาเหตุอื่นที่เป็นมูลเหตุจูงใจให้มีการกระทำความผิด เช่นติดยาเสพติด ติดการพนัน ติดเกมส์ออนไลน์ หรือมาจากเหตุอื่น และมากระทำความผิดที่รุนแรงขึ้นดังกรณีนี้ ซึ่งในกรณีที่เป็นข่าวนี้จากพฤติการณ์ที่สำนักข่าวต่าง ๆ นำเสนอนั้นพฤติการณ์ที่ใช้มีดข่มขู่พนักงานของร้านทองเพื่อให้พนักงานของร้านทองหยิบทองคำให้กับผู้ที่ข่มขู่ในขณะนั้นเป็นการกระทำผิดฐานชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ เพราะเป็นการขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้พนักงานร้านทองยื่นให้ซึ่งทองคำแก่ผู้กระทำความผิด และเป็นความผิดฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควรด้วย

มีหลักกฎหมายและคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้องดังนี้

ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(1) ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป
(2) ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น
(3) ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้
(4) ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ
(5) ให้พ้นจากการจับกุม

ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองหมื่นบาทถ้าความผิดนั้นเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดแห่งมาตรา 335 หรือเป็นการกระทำต่อทรัพย์ที่เป็นโค กระบือ เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรมมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรม ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาทถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาทถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อ นมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท และให้ศาลมีอำนาจ สั่งให้ริบอาวุธนั้น

คำพิพากษาฎีกาที่ 286/2546 แม้จำเลยจะมิได้พูดจาข่มขู่หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายแต่พฤติการณ์ของจำเลยที่เดินเข้าหาผู้เสียหายจนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวจนต้องดึงสร้อยคอทองคำโยนทิ้ง บ่งบอกให้เห็นว่าจำเลยแสดงอาการขู่เข็ญผู้เสียหายแล้วโดยไม่จำต้องพิจารณาว่าจำเลยจะได้พูดจาขู่เข็ญผู้เสียหายหรือไม่ และเมื่อผู้เสียหายโยนสร้อยคอทองคำทิ้งเพื่อมิให้จำเลยแย่งเอาไปได้ จำเลยยังใช้มีดปลายแหลมจ่อที่หน้าอกผู้เสียหายอีก กรณีถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญผู้เสียหายมิให้ขัดขืนต่อการที่จำเลยจะลักเอาสร้อยคำทองคำและเป็นการขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายแล้วการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339

Facebook
Twitter
Email
WhatsApp